ไป โค่ย ฟาร์ม - ฟาร์มปลาคาร์ฟนำเข้าจากญี่ปุ่น

เจาะลึกค่า pH ที่เหมาะสำหรับการเลี้ยงปลาคาร์ฟ

เลือกดูตามหัวข้อ

ถ้าหากเปรียบเทียบว่า อากาศสำคัญที่สุดสำหรับคนเรา น้ำก็ถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับบ่อปลา หรือการเลี้ยงปลาคาร์ฟเช่นกันครับ วันนี้เรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับ pH ของน้ำกันดีกว่า ว่าเราควรเช็คให้ pH ของบ่อปลา อยู่ที่เท่าไร ลองทำความเข้าใจไปพร้อมกันนะครับ เพราะ pH สำคัญมากๆสำหรับการดูแลรักษาบ่อปลาคาร์ฟ

สำหรับมือใหม่ : ความคำสัญของ pH กับน้ำในบ่อปลา

ค่า pH คืออะไร

pH เป็นค่าที่ใช้เป็นตัววัดความเข้มข้นของไฮโดรเจนไอออน(ค่าที่ใช้บอกความเป็นกรด) และไฮโดรเจนซิลไอออน(ค่าที่ใช้บอกความเป็นด่าง) หรือพูดง่ายๆก็คือ “ค่าที่ใช้วัดความเป็น กรด-ด่าง ของน้ำ” นั้นเองครับ

แล้ว pH เท่าไรถึงเป็นกรด หรือเป็นด่าง?

ตามมาตรฐานสากลแล้ว จะแบ่งตามนี้ครับ

pH = 0- 6.99 : แปลว่าน้ำที่วัดขณะนั้น มีสภาพเป็นกรด

pH = 7 : แปลว่าน้ำที่วัดขณะนั้นมี สภาพเป็นกลาง

pH = 7 – 14.0 : แปลว่าน้ำที่วัดขณะนั้นมี สภาพเป็นด่าง

ph scale of the water

แต่ในความเป็นจริง หากทำการวัดค่าน้ำนั้นได้ pH 6.5-8.5 ก็ยังถือว่าเป็นค่าที่เหมาะสมกับการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำอยู่ได้นะครับ เพราะยังอยู่ในเกรณฑ์ที่เป็น กรด หรือ ด่าง อ่อนๆ

อ้างอิงจาก : กรมประมง

ควรวัด pH ตอนไหนดี

คำตอบคือ ช่วงเช้ามืด และช่วงเย็นในทุกๆวันในช่วงที่สภาพอากาศปกติ เพื่อให้ได้ตัวเลข pH ต่ำสุด และสูงสุดต่อวัน โดยที่ปกติแล้วในบ่อปลาคราฟ ที่มีปลาอยู่แล้ว จะมีการเปลี่ยนแปลงในช่วงตอนกลางวัน และกลางคืนครับ สาเหตุมาจากแพลงก์ตอนต่างๆ ที่อยู่ในน้ำ ใช้คาร์บอนไดออกไซด์ สำหรับสังเคราะห์แสงในตอนกลางวัน ส่งผลทำให้ค่าจะสูงขึ้น และเมื่อถึงเวลากลางคืนแพลงก์ตอนเหล่านั้นก็จะคาย คาร์บอนไดออกไซด์กลับมาครับ

ข้อควรระวัง : ค่าความเปลี่ยนแปลงของ pH ต่อวันในบ่อปลาที่มีปลาคาร์ฟแล้ว ไม่ควรมีการเปลี่ยนแปลงเกิน 2 หน่วยในรอบวัน เพราะอาจส่งต่อปลาคาร์ฟโดยตรง และอาจส่งผลทางอ้อมที่ทำให้สารพิษต่างๆ ในบ่อแตกตัวเพิ่มขึ้น เช่น ระดับของแอมโมเนียที่เพิ่มมากขึ้น

ค่า pH ต่างๆ ส่งผลกับบ่อปลา หรือ ปลาคาร์ฟยังไงบ้าง

pHสถานะน้ำผลกระทบต่อสัตว์น้ำ
4เป็นกรดรุนแรงส่งผลให้สัตว์น้ำในบ่อตายได้
4-5เป็นกรดสัตว์น้ำต่างๆ ยังอยู่ได้ จะไม่มีการสืบพันธุ์ ปลาไม่กินอาหาร เนื่องจาก ในน้ำมี โลหะ หรือตะกอน ที่ส่งผลต่อเมแทบอลิซึมของปลา
5-6เป็นกรดอ่อนๆสัตว์น้ำต่างๆ สามารถอยู่ได้ แต่ จะเติบโตช้า หรือเกิดโรคได้ง่าย
6-9เป็นกลางสัตว์น้ำต่างๆ จะเจริญเติบโตได้ดีที่สุดในช่วง pH นี้
9-11เป็นด่างอ่อนๆสัตว์น้ำต่างๆ จะเติบโตช้า หรือเกิดโรคได้ง่าย รวมถึงอาจะเกิดการสะสมของ แอมโมเนียที่เป็นพิศษ (NH3)
11เป็นด่างรุนแรงส่งผลให้สัตว์น้ำในบ่อตายได้

จะเห็นได้ว่า pH ถือเป็นปัจจัยหลักที่ผู้เลี้ยงควรให้ความสำคัญลำดับแรกๆเลยครับ หากผู้เลี้ยงสามารถเข้าใจคุณสมบัติต่างๆทาง เคมี และกายภาพของน้ำ จะช่วยให้การเลี้ยงปลาคาร์ฟเติบโตได้ดีขึ้น

การปรับและควบคุมระดับ pH ในน้ำที่เหมาะสม

ถึงแม้ว่าที่ค่า 7 จะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม แต่ในความเป็นจริงแล้ว ผู้เลี้ยงทุกท่านอาจจะไม่ต้องคงที่ pH ให้อยู่ที่ 7 เสมอไปครับ สัก 6.5-8.5 ตามที่ได้กล่าวมาด้านบนแล้ว ถือเป็นช่วงที่เหมาะสมที่สุด แต่ต้องหมั่นคอยสังเกตุไว้เผื่อมีการเปลี่ยนแปลงแบบฉับพลัน จะได้หาสาเหตุ พร้อมป้องกันได้ทันท่วงทีครบ

ทำอย่างไรเมื่อค่า pH มีการเปลี่ยนแปลงมาก

หากเวลาที่เราวัดค่าในน้ำแล้วเกิดมีการเปลี่ยนแปลงมากในวันนั้น ลองดูวิธีการปรับให้เหมาะสมตามนี้ครับ

การเปลี่ยนถ่ายน้ำบางส่วน

การถ่ายน้ำจากบ่อเลี้ยงเดิม และเติมน้ำจืดใหม่เข้าไป เป็นวิธีหนึ่งในการลด pH ของบ่ออย่างง่ายที่สุดครับ แต่แนะนำว่าน้ำที่จะเติมนั้นควรต้องจัดการพักน้ำ และขจัดสิ่งสกปรกและโลหะหนักที่อาจะเป็นอันตรายออกไปก่อน เช่นหากใช้น้ำประปาเลย ควรใช้ผลิตภัณฑ์ ที่ลดพวก Chlorine, Cholaramines, Ammonia ก่อน

ตัวอย่าง The Pond Guy Stress Reducer Plus สำหรับใช้เติมในน้ำเพื่อลดโลหะหนักต่างๆ จากน้ำประปา ขจัดแอมโมเนีย คลอลีน คลอรามีน

The Pond Gu for reduce pH in the water

การใช้สารลดค่า pH

ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกหากไม่ต้องการจะถ่ายน้ำจากบ่อ หรือกรณีที่ไม่สามารถถ่ายน้ำจากบ่อได้ สารควบคุม pH ถือเป็นอีกตัวเลือกที่ช่วยในการปรับสมดุลให้ pH ในบ่อกลับมาอยู่ในเกณฑ์ที่ปกติครับ

แต่การใช้สารลดนั้น ควรต้องเข้าใจถึงอัตราส่วนของน้ำในบ่อ กับ สารดีๆครับ รวมถึงช่วงฤดูที่ใช้ด้วย ซึ่งการ ซึ่งการใช้สารลด pH ให้ได้ประโยชน์ที่สุด ควรค่อยๆปรับให้ลงทีละ 0.5 แล้วเว้นพักหลายๆชั่วโมง ก่อนค่อยเติมครั้งต่อไปครับ ในระหว่างนั้นให้ใช้ชุดทดสอบ pH คอยตรวจสอบสม่ำเสมอ

ตัวอย่าง ชุดทดสอบ pH ของน้ำ หรือ กระดาษลิตมัส ที่เรารู้จักกันนั้นเองครับ

litmus paper using for test pH of the water

เครื่องวัด pH แบบดิจิตอล สะดวกในการใช้วัดค่าน้ำมากๆ ครับ

digital pH สำหรับวัดค่า pH

การใช้สารเพิ่มความใสของน้ำในบ่อ

เมื่อใดก็ตามที่น้ำในบ่อมีสภาพความเป็นตะกอนเยอะ ไม่ใส แปลว่าพวกแพลงก์ตอนต่างๆ กำลังเติบโตดีเกินไป หากปล่อยทิ้งไว้นานๆ ก็ย่อมส่งผลต่อภาพรวมของน้ำ และ pH ได้ครับ ดังนั้นนอกจากระบบกรองน้ำบ่อปลาคาร์ฟที่ดี ที่คุณควรมีแล้วนั้น การเติบสารเพิ่มความใสลงในบ่อ ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ช่วยลด pH ได้เช่นกันครับ โดยสารเหล่านี้จะมีคุณสมบัติ ในการทำให้ตะกอนแขวนลอย(คล้ายๆกับที่คลอลีนทำ) ทำให้ระบบกรองต่างๆของบ่อเราสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ และช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่เป็นประโยชน์ในนั้นได้ครับ

ผลิตภัณฑ์ กลุ่มเพิ่มความใสของน้ำ

Clarity Defense

สรุปสาระสำคัญเกี่ยวกับค่า pH ของบ่อปลา

  • ควร Maintain ค่า pH ในบ่อให้อยู่ระหว่าง 6.5-8.5 ซึ่งเป็นช่วงที่เหมาะสมกับการเจริญเติบโต และการดูแลปลาคาร์ฟ
  • ช่วงเวลาที่ควรวัด pH คือ เช้ามืด และช่วงเย็น เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่ สภาพอากาศเปลี่ยน และอาจส่งผลต่อคุณภาพน้ำได้มากที่สุด
  • ในหนึ่งวัน pH ของน้ำไม่ควรเปลี่ยนสวิงเกิน 2 หน่วย ไม่ว่าจะขึ้นหรือลง หากเกินนั้นควรรีบตรวจสอบปัญหา และแก้ไขโดยเร็ว ไม่ฉะนั้นปลาในบ่อจะเกิดความเครียด และอาจจะตายได้
  • การเปลี่ยนถ่ายน้ำในปริมาณที่เหมาะสม, การเติบสารช่วยปรับ pH, หรือการใช้ผลิตภัณฑ์เพิ่มความใสของน้ำ ต่างๆ สามารถทำได้ เพื่อช่วยปรับ pH ของบ่อปลาให้กลับมาปกติ ซึ่งแนะนำว่าการเติบสารใดๆ ก็แล้วแต่ลงในบ่อปลา ควรอ่านคู่มือ และคำนวนให้สัมพันธ์ กับน้ำในบ่อที่สุด อย่าใส่เกิน และสารบางอย่างเช่น สารลดค่า pH ควรใช้ให้ลดทีละ 0.5 หน่วย และพักหลายชั่วโมงหน่อย ถึงจะเติบสารรอบต่อไป
Picture of เต้ย ไปโค่ยฟาร์ม

เต้ย ไปโค่ยฟาร์ม

เจ้าของฟาร์มปลาคราฟไปโค่ยฟาร์ม, ผู้หลงไหลในการเดินทางตามหาปลาคราฟชั้นดี

ติดต่อผ่านไลน์ : @paikoifarm

ติดต่อ

Share:

Facebook
Twitter

เลือกดูตามหัวข้อ